Skip to content Skip to sidebar Skip to footer
LASI - Lean Automation System integrators

LASI – Lean Automation System Integrators

LASI คืออะไร LASI ย่อมาจาก Lean Automation System integrators เป็นคอร์สฝึกอบรมหลักสูตรการปูพื้นฐานการออกแบบระบบการผลิต โดยใช้แนวคิดแบบลีน (Lean Automation) เพื่อให้นักออกแบบระบบการผลิตหรือในหลักสูตรนี้เราจะเรียกแทน นักออกแบบระบบ Automation ว่า “System Integrator (SI / SIer)” เพื่อให้นักออกแบบสามารถออกแบบ เลือกใช้ระบบ Automation ให้เหมาะสมกับโรงงานของตนและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศไทย จุดเริ่มต้นของโครงการ LASI ในปี 2018 เด็นโซ่ได้ร่วมลงนามความร่วมมือกระกระทรวงอุตสาหกรรมของไทยเพื่อเปิดตัวโครงการ LASI ที่ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต (ITC) และหลักสูตรนี้ร่วมกันคิดค้นโดยอาจารย์วิศวกรที่รวบรวมประสบการณ์การทำ Lean Automation กว่า 70 ปีของเด็นโซ่ประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตในไทยอีก 10 ปี และ สมาชิกสมาคมนักออกแบบระบบ Automation และอาจารย์คณะวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยมีจุดหมายร่วมกันในการพัฒนาหลักสูตรที่ง่ายต่อการเรียนสำหรับผู้เรียนชาวไทย จาก Pain Point ที่ประเทศไทยมีค่าแรงที่สูงขึ้นและแรงงานในอุตสาหกรรมรมก็มีแนวโน้มที่จะลดลง เป็นที่มาของการนำระบบ Automation ทั้งหุ่นยนต์และเครื่องจักรมาใช้ทดแทนแรงงาน…

Read More

Overall Equipment Effectiveness

OEE ตัวชี้วัดสุขภาพของเครื่องจักรที่ใช้ในโรงงาน

OEE ตัวชี้วัดสุขภาพของเครื่องจักรที่มักใช้ในโรงงาน ตัวชี้วัดสุขภาพ หรือ ประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักร (Overall Equipment Effectiveness – OEE) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการวัดผลผลิตและประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตสินค้า โดยการพิจารณาจากตัวชี้วัด เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตสามารถระบุและกำจัดกระบวนการที่ไม่จำเป็นออกไป สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ 3 องค์ประกอบของ OEE OEE คำนวณจากส่วนประกอบสำคัญสามอย่าง: ความพร้อมใช้งาน (Availability) ประสิทธิภาพ (Performance) และคุณภาพ (Quality) องค์ประกอบแต่ละส่วนนี้จะกล่าวถึงแง่มุมต่างๆของประสิทธิภาพการผลิต 1. ความพร้อมใช้งาน (Availability) การวัดความพร้อมในการใช้งานของเครื่องจักร ซึ่งในเชิงปฏิบัติ เครื่องจักรควรเดินต่อเนื่องไม่หยุด หรือไม่มีข้อบกพร่อง ว่าง่ายๆ คือ การเปรียบเทียบว่าเราวางแผนให้เครื่องจักรผลิตกี่ชั่วโมง แล้วผลิตได้จริงกี่ชั่วโมง 2. ประสิทธิภาพ (Performance) การวัดเชิงความเร็วในการทำงานตามมาตรฐานของเครื่องจักร ซึ่งในเชิงทฤษฎี เครื่องจักรควรเดินเครื่องได้เต็มกำลัง ไม่ควรเดินล่าช้ากว่าที่ควรเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีปัจจัยมากมายที่ทำให้ไม่เป็นไปตามแผน เช่น เครื่องจักรทำงานช้ากว่ามาตรฐานที่กำหนด นั้นคือเป็นการประเมินความสามารถในการผลิตชิ้นงานของเครื่องจักรนั้นๆ 3. คุณภาพ (Quality) การวัดคุณภาพการผลิตของเครื่องจักร…

Read More

3 ข้อมูลสำคัญของไลน์ผลิต เพิ่ม Productivity

ความท้าทายในการบริหารงานยุค 4.0 ความท้าทายที่ชาวโรงงานส่วนใหญ่พบเจอในยุคของการบริหารงานในยุค 4.0 ที่การเก็บข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญต่อการทำงานในทุกๆวงการ เมื่อเราเก็บข้อมูลมากมาย หลายท่านคงพบปัญหาหลักคล้ายๆกัน คือ 1. มีข้อมูลเยอะ แต่ไม่รู้จะใช้ประโยชน์อย่างไร เก็บข้อมูลไว้มากมายแต่ไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ต่อ หรือ ไม่ทราบว่าข้อมูลไหนเป็นตัวชี้วัดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิตที่แท้จริง 2. มีข้อมูลเยอะ แต่ไม่รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงของไลน์การผลิตอยู่ที่ไหน การพบปัญหาในกระบวนการผลิตอาจเกิดจากหลายปัจจัยที่แทรกแซงกระบวนการทำงานของเครื่องจักรหรือระบบโดยรวม แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อมูลตัวไหนที่จะมาช่วยเราในการวิเคราะห์ต้นตอของปัญหา 3. มีข้อมูลเยอะ แต่ไม่สามารถถ่ายทอด อธิบายปัญหาได้อย่างถูกต้อง บางทีปัญหาหน้างานมีความซับซ้อน บางปัญหาเกิดขึ้นมาและหายไป เมื่อไม่ได้เก็บบันทึกข้อมูลที่ตรงจุดทำให้ไม่สามารถ recheck ปัญหาได้ ข้อมูลสำคัญในกระบวนการผลิตที่ส่งผลต่อการเพิ่ม Productivity จากประสบการณ์การปรับปรุงไลน์การผลิตหลายต่อหลายครั้งในโรงงานเด็นโซ่ จนเกิดความเชี่ยวชาญ ทำให้เราเข้าใจว่า 3 ข้อมูลหลักที่มีผลต่อการ เร่งกระบวนการ PDCA (Plan-Do-Check-Act) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมีดังนี้ 1. Output Progress (ความก้าวหน้าของผลการผลิต) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามและเพิ่มผลผลิตกระบวนการผลิต การนำ sensor ในอุปกรณ์ IoT มาใช้เพื่อตรวจวัดปริมาณผลผลิต และนำข้อมูลเหล่านี้ไปยังระบบ IoT platform และฐานข้อมูลเพื่อสร้างกราฟแบบ…

Read More

Industry 5.0

การปฏิวัติอุตสาหกรรม เตรียมความพร้อมรับอนาคต Industry 5.0

การปฏิวัติอุตสาหกรรม พร้อมรับอนาคต Industry 5.0 อุตสาหกรรมเป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมที่สำคัญ ดังนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลต่อการปรับตัวของสังคมในยุคต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมโลกอีกด้วย การพัฒนาอุตสาหกรรมตามยุคสมัย Industry 1.0 – ใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคน การปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคเริ่มแรกซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ในช่วงที่อังกฤษล่าอนานิคมและได้วัตถุดิบมามากขึ้น จึงเกิดความต้องการที่จะผลิตได้มากขึ้น ทำให้มีการคิดค้นนำพลังงานไอน้ำ มาผลิตเป็นเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานคนและสัตว์ในอุตสาหกรรม ซึ่งยังเป็นการใช้เครื่องจักรแบบ Stand Alone และยังคงใช้แรงงานคนขนย้ายสินค้าภายในโรงงาน Industry 2.0 – การเข้ามาของไฟฟ้าและ การผลิตจำนวนมาก (Mass Production) ยุคของการผลิตแบบ Mass Production และการนำไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม เริ่มมีการพัฒนาจากการใช้คนเคลื่อนย้ายสินค้าในโรงงานเปลี่ยนเป็นใช้สานพานในการลำเลียงชิ้นงานระหว่าง Station (Assembly Line) ส่งผลให้ Productivity เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการผลิตซ้ำในจำนวนมากๆ หรือที่เรียกว่า Mass Production ราคาสินค้ามีราคาถูกลง ทำให้คนเข้าถึงสินค้าอุตสาหกรรมได้มากขึ้น Industry 3.0 – ยุค IT และ Computer เมื่อเริ่มมีการนำระบบ…

Read More